รถมิตซูบิชิ ไทรทัน ถือเป็นรถปิกอัพที่มีการแต่งองค์ทรงเครื่องมาโดยตลอดนับตั้งแต่เปิดตัวในตลาดรถประเทศไทยเมื่อปี 2548 และการทดสอบรถมิตซูบิชิ ไทรทัน ในครั้งนี้ ทางทีมงาน MZ-THAILAND ก็ได้นำรถมิตซูบิชิ ไทรทัน มาทดสอบอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ได้รุ่นเมกะแค็บมาทดสอบ ในลักษณะเน้นการบรรทุกใช้งาน

โดยนำรถมิตซูบิชิ ไทรทัน เมกะแค็บ เครื่องยนต์ 2.5 VG TURBO ขับเคลื่อน 2 ล้อมาบรรทุกปูนซีเมนต์โดยมีน้ำหนัก 1 ตัน หรือคิดเป็นปูนซีเมนต์ประมาณ 20 ถุง

สำหรับรถปิกอัพมิตซูบิชิ ไทรทัน เมกะแค็บ มีการปรับรูปลักษณ์ภายนอกให้ดูแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนที่ผ่านมา ด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่แบบโครเมียม เพิ่มปริมาตรการบรรทุกด้วยกระบะท้ายออกแบบใหม่สูงขึ้นกว่าเดิม 57 มิลลิเมตร กันชนหน้าหลังดีไซน์ใหม่ ดูแข็งแกร่ง บึกบึน กว่าเดิม ไฟเลี้ยวสีขาวสไตล์สปอร์ต ไฟตัดหมอกหน้าดีไซน์ใหม่เพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ยามค่ำคืน พร้อมบันไดข้างอะลูมิเนียม เพิ่มความสะดวกสบายในการขึ้น-ลง

ภายในห้องโดยสารได้ตกแต่งสไตล์สีเงิน “ซิลเวอร์ เดคอร์เรชั่น” คอนโซลกลางและคอนโซลเกียร์ตกแต่งสีเงิน พร้อมเบาะหนังทรงสปอร์ต เครื่องเล่นซีดี/ดีวีดี เอ็มพี3 Div X พร้อมช่อง AUX สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง จอมอนิเตอร์ WIDE SCREEN ขนาด 7 นิ้ว แบบ Built-in พร้อมรีโมท และมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ใช้งาน เช่น ช่องเก็บของที่ประตูคู่หน้าพร้อมช่องใส่ขวดน้ำ ไฟส่องสว่าง และที่วางของเอนกประสงค์บริเวณคอนโซลหน้า

เครื่องยนต์ของรถมิตซูบิชิ ไทรทัน เมกะแค็บ เป็นเครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตร. DI-D ไฮเปอร์ คอมมอนเรล DOHC 16 V เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ พร้อมท่อร่วมไอดีแบบทวินอินเทค แมนิโฟลด์ ให้กำลังสูงสุด 140 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 321 นิวตัน/เมตรที่ 2,000 รอบต่อนาที พร้อมรองรับน้ำมันไบโอดีเซล B5 ระบบช่วงล่างหน้าแบบอิสระปีกนกสองชั้น พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง ช่วงล่างหลังแบบแหนบแผ่นซ้อนพร้อมโช้คอัพไขว้ รัศมีวงเลี้ยวที่แคบสุด 5.9 เมตร

ระบบความปลอดภัยมาแบบเพียบพร้อม เริ่มตั้งแต่ตัวถังนิรภัย RISE Body ซึ่งถูกดีไซน์เพื่อลดการยุบตัวของห้องโดยสารทำให้ห้องโดยสารเสียหายจากการชนน้อยที่สุดเมื่อเกิดการชนจากด้านหน้าและหลัง พร้อมเสริมคานกันกระแทกด้านข้างในประตูรถทุกบานลดการยุบตัวของประตูเมื่อเกิดการชนจากด้านข้าง เพิ่มประสิทธิภาพในการหยุดรถด้วยระบบเบรก ABS พร้อมระบบการกระจายแรงเบรกแบบ EBD(ยกเว้นรุ่น เมกะแค็บ  2.5 GLX) ถุงลมนิรภัยด้านคนขับ(ยกเว้นรุ่น เมกะแค็บ  2.5 GLX) และเข็มขัดนิรภัยดึงกลับอัตโนมัติ(ยกเว้นรุ่น เมกะแค็บ  2.5 GLX) ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในขณะขับขี่ ระบบพวงมาลัยแบบแร็คแอนด์พีเนี่ยนมาพร้อมพาวเวอร์ ระบบเบรกคู่หน้าแบบดิสก์เบรกมีช่องระบายความร้อนพร้อมดรัมเบรกในล้อคู่หลัง พร้อมเซ็นทรัลล็อก กุญแจรีโมท(ยกเว้นรุ่น เมกะแค็บ  2.5 GLX) ระบบกุญแจป้องกันการโจรกรรม(ยกเว้นรุ่น เมกะแค็บ  2.5 GLX) และกระจกไฟฟ้าพร้อมระบบSafety (ยกเว้นรุ่น เมกะแค็บ  2.5 GLX)

รถมิตซูบิชิ ไทรทัน เมกะแค็บ ที่นำมาทดสอบได้ใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติ ตอนช่วงที่ขับทดสอบแบบตัวรถเปล่าๆยังไม่บรรทุกของนั้นมีพละกำลังเหลือๆ ระบบเทอร์โบจะทำงานในรอบต่ำเมื่อเหยียบคันเร่งแล้วรอบเครื่องยนต์สูงถึง 2,000 รอบ/นาที จะรู้สึกถึงตัวรถพุ่งทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่เมื่องลองเล่นระบบเกียร์อัตโนมัติ ลองเปลี่ยนเกียร์ +/- 5 จังหวะ เพื่อตอนเร่งแซงรถคันข้างหน้า ถือว่าตอบสนองได้ดี

การขับขี่รถมิตซูบิชิ ไทรทัน เมกะแค็บ ใช้งานในเมือง ชอบตรงที่ระบบพวงมาลัยให้ความแม่นยำ ไม่ว่าจะเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา หรือตอนกลับรถ ทำให้สามารถกะระยะในการหมุนพวงมาลัยเลี้ยวรถได้ง่าย ขณะที่ระบบช่วงล่างให้ความมั่นใจว่าหนึบเกาะถนน

หลังจากที่ได้ลองขับรถมิตซูบิชิ ไทรทัน เมกะแค็บ แบบตัวรถเปล่าแล้ว ก็ถึงเวลาที่นำรถคันนี้แปลงกายเป็นรถส่งของ ด้วยการนำถุงปูซีเมนต์ประมาณ 20 ถุง รวมน้ำหนักประมาณ 1 ตัน ใส่ลงไปในกระบะด้านท้าย เมื่อร้านวัสดุก่อสร้างขนถุงปูนซีเมนต์ใส่เป็นที่เรียบร้อย จะเห็นว่ากระบะท้ายรถโหลดลงมาในระดับนึง

ระยะทางจากร้านวัสดุก่อสร้างอยู่เส้นถนนปิ่นเกล้าเพื่อนำไปส่งจุดหมายปลายทางพระราม2 รวมระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร ตอนที่ขึ้นไปนั่งบนเบาะคนขับรู้สึกได้ว่าท้ายกระบะเตี้ยลงเล็กน้อย หน้ารถเชิดขึ้นนิดหน่อย ก่อนจะขับรถออกตัวนึกในใจว่ารถต้องอืดตอนขับออกตัวแน่ๆ แต่เมื่อลองเคลื่อนตัวออกรถปรากฏว่ารถตัวเปล่ากับรถที่บรรทุกถุงปูนซีเมนต์ไม่ได้รู้สึกถึงความแตกต่าง ด้วยแรงบิดของเครื่องยนต์321 นิวตัน/เมตรที่ 2,000 รอบต่อนาที ทำให้ขนของน้ำหนัก 1 ตันได้อย่างสบายๆ แต่อาจจะต้องเพิ่มระยะในการเบรกมากขึ้นประมาณ 5 เมตร เพื่อความปลอดภัย

นอกจากนี้ รถมิตซูบิชิ ไทรทัน เมกะแค็บ ยังให้ความประหยัดน้ำมัน เพราะตอนที่ขับขี่ทดสอบอยู่ในเมืองทั้งสิ้น โดยน้ำมันเต็มถังเมื่อตอนไปรับรถที่บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จำกัด และส่งกลับในวันจันทร์ ได้ใช้น้ำมันไปเกือบ 3/4 ของถังน้ำมัน รวมระยะทางที่รถวิ่งไปประมาณ 480 กิโลเมตร แต่ถ้าวิ่งนอกเมืองด้วยความเร็วเฉลี่ยคงที่ ระยะทางน่าจะได้มากกว่านี้

ด้านภายในห้องโดยสารยังเพลิดเพลินกับระบบเครื่องเล่นซีดี/ดีวีดี เอ็มพี3 Div X พร้อมช่อง AUX สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง จอมอนิเตอร์ WIDE SCREEN ที่สามารถควบคุมการฟังก์ชั่นใช้งานบนพวงมาลัยได้ ขณะที่จอ WIDE SCREEN ยังสามารถแบ่งการทำงานของหน้าจอแบบ 50:50 หรือ 70:30 โดยที่ดูเส้นทางเนวิเกเตอร์ และ รับชมภาพยนต์ไปด้วยพร้อมๆกัน