ทดสอบสมรรถนะรถฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ซึ่งเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 4 ในรุ่น SV+ AT เคาะราคาขายที่ 749,000 บาทบนเส้นทางจังหวัดเชียงราย รวมระยะทางไป-กลับ ประมาณ 185 กิโลเมตร

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ได้เชิญ “MZ-THAILAND” ทดสอบสมรรถนะรถฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ เจนเนอเรชั่นที่ 4 ได้รับการพัฒนาภายใต้แนวคิด “Sleek Crossmotion”ผสานแนวคิด “Man-Maximum Machine-Minimum” จึงเป็นการออกแบบที่รวมเอาด้านหน้าที่มีความโฉบเฉี่ยว ปราดเปรียวและด้านข้างที่ทรงพลังเข้าไว้ด้วยกัน

ภายในห้องโดยสารมีความล้ำสมัยและหรูหรามีระดับ คอนโซลหน้าด้านคนขับมีความสะดวกในการใช้งาน โดยรายละเอียดของแผงควบคุมจะอ้างอิงกับรูปแบบการแสดงผลที่คุ้นเคยจากสมาร์ทโฟน ระบบปรับอากาศมาพร้อมความล้ำสมัย สามารถปรับอัตโนมัติจะมีแป้นสำหรับกดเลือกฟังก์ชั่นที่เรียกว่า Smart Touch Panelพร้อมกับพื้นผิวที่แบนเรียบ และจะมีการเรืองแสงขึ้นมาเมื่อถูกสัมผัส

อีกทั้งยังมาพร้อมกับช่องเก็บของมากมายตามจุดต่างๆ เพื่อรองรับกับการใช้งานได้อย่างเต็มที่ โดยนอกจากที่วางแก้วน้ำ 2 ใบและช่องสำหรับเก็บของแล้วยังมีช่องสำหรับวางขวดน้ำขนาด 1 ลิตรอีก 2 ช่องติดตั้งอยู่ตรงแผงด้านข้างประตูแต่ละบาน และกล่องเก็บสัมภาระบริเวณคอนโซล โดยในแต่ละช่องเก็บของจะมีความลึกดังนั้นจึงสามารถวางขวดที่มีความสูงได้โดยที่ไม่เกะกะแขนของผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารด้านหน้า

ด้านเครื่องยนต์รถฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ SOHC i-VTEC 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 117 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 146 นิวตัน-เมตร ที่ 4,700 รอบต่อนาทีโดยได้รับการปรับปรุงบนพื้นฐานของบล็อกที่ใช้งานในปัจจุบันเพื่อให้รองรับน้ำมัน E85 ผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ส่วนระบบช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังเป็นแบบทอร์ชันบีมแบบตัว H

จุดเริ่มต้นของการทดสอบขับรถฮอนด้า ซิตี้ ใหม่นี้ เริ่มขับจากตัวเมืองจังหวัดเชียงรายเพื่อไปสะเมิง โดยการทดสอบนี้ยังได้ใช้น้ำมัน E85 ในการทดสอบในรถฮอนด้า ซิตี้ ใหม่นี้ด้วย ซึ่งอัตราการเร่งของการออกตัวถือว่าดีมาก รถพุ่งทะยานอย่างรวดเร็ว ขณะที่ในช่วงรถมีความเร็วประมาณ 60 – 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง แล้วลองกดตันเร่งเพื่อแซงคันหน้า พบว่าอัตราการเร่งแซงดี ความเร็วของรถไต่ระดับเกิน 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้แบบสบายๆ แต่ด้วยการจราจรบนถนนมีปริมาณมากพอสมควรจึงไม่ได้ลองว่ารถคันนี้ใช้ความเร็วสูงสุดที่เท่าไหร่     

ขณะที่ขับบนเส้นทางสะเมิง เป็นเส้นทางช่วงขึ้น-ลงเขา และ เส้นทางคดเคี้ยวไปมานั้น สมรรถนะของเครื่องยนต์ยังมีพละกำลังดี และยิ่งมีระบบ Paddle Shift ช่วยให้ขับขี่สนุกมากขึ้น การเปลี่ยนแต่ละเกียร์นั้นสามารถลากรอบ Red Line ได้อย่างมันส์

ด้านระบบช่วงล่างของรถฮอนด้า ซิตี้ ใหม่นี้ มีลักษณะนุ่มและหนึบเกาะถนน ไม่เหมือนรุ่นที่แล้วที่รู้ได้ว่าแข็งกระด้างกว่านี้หน่อย และเมื่อลองขับขี่เข้าโค้งด้วยความเร็วสูงยังมั่นใจได้ว่าช่วงล่างยังเอาอยู่ แต่ยางรถยนต์ที่ใส่มากับรถให้ความรู้สึกเลยว่าไม่เกาะถนนมาก เนื่องจากลองขับขี่เข้าโค้งด้วยความเร็วจะรับรู้ได้ถึงอาการของดอกยางไม่เกาะถนน บางครั้งในบางโค้งเสียงดอกยางลั่นเอี๊ยดเบาๆเล็กน้อย และเมื่อลองเหยียบเบรกแรงหน่อยแต่ไม่ถึงกับเหยียบเบรกแบบกระทันหัน ยางให้เสียงเอี๊ยดออกมาดังชัดเจน

ส่วนภายในห้องโดยสารรถคันนี้เมื่อได้ลองทั้งนั่งขับและนั่งด้านหลัง พบว่ามีพื้นที่กว้างขวางให้ความสะดวกสบายในการเข้า-ออก ระบบปรับอากาศและระบบเครื่องเสียงในรถสามารถใช้ปลายนิ้วสัมผัสหรือ เลื่อนขึ้น – ลง เบาๆ เพียงเท่านั้น

สรุปโดยรวมแล้ว รถฮอนด้า ซิตี้ ใหมึคันนี้ เป็นรถที่มีความโดดเด่นเหนือกว่าคู่แข่ง อีกทั้งยังให้มาตรฐานความปลอดภัยมาแบบครบครัน ได้แก่ ระบบ ABS , ระบบ EBD , ระบบควบคุมการทรงตัว VSA และ ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ทำให้รถคันนี้ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรถในกลุ่มซับคอมแพ็คท์คาร์ และด้วยราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 559,000 - 749,000 บาท ถือว่าคุ้มค่า