บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เชิญ MZ-THAILAND ร่วมกิจกรรมทดสอบรถนิสสัน เทียน่า ใหม่ ยนตรกรรมหรูระดับ “มาสเตอร์พีซ” ใหม่ ในรุ่น 2.5XV Navi ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่ รหัส QR25DE ขนาด 2.5 ลิตร DOHC เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว Twin CVTC และระบบเกียร์แปรผันอัจฉริยะ XTRONIC CVT รุ่นใหม่ล่าสุด
พร้อมมอบสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม นุ่มนวล และตอบสนองได้ดั่งใจ เร่งแซงได้ฉับไว ทั้งยังประหยัดเชื้อเพลิงกว่าเดิม 27% กับเส้นทางตรัง-สิเกา รวมระยะทางประมาณ 150 กิโลเมตร
จุดเริ่มต้นของการทดสอบมีขึ้นที่โชว์รูมนิสสันประจำจังหวัดตรัง เพื่อมุ่งหน้าสู่ “อนันตรา สิเกา รีสอร์ท แอนด์ สปา” ณ ปากเม็ง-หาดฉางหลาง ในเขตอุทยานแห่งชาติเจ้าไหม อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง โดยขับทดสอบเน้นเส้นทางเลี่ยงเมือง ซึ่งถนนเลี่ยงเมืองเป็นถนนที่เป็นคอนกรีตสลับผิวทางลาดยาง ที่มีทางคดเคี้ยวสลับกับทางลาดชัน
ด้วยสมรรถนะของเครื่องยนต์ QR25DE ใหม่ในนิสสัน เทียน่า คันนี้ ที่ให้แรงบิดสูงสุดถึง 234 นิวตัน-เมตร (23.8 กก.-ม.) ที่ 4,000 รอบต่อนาที และกำลังสูงสุด 173 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที ผ่านระบบเกียร์แปรผันอัจฉริยะ XTRONIC CVT ส่งผลทำให้อัตราการเร่งออกตัวทดีมาก ไม่รอรอบเครื่องยนต์มากเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ตัวเก่า ขณะที่อัตราการเร่งแซงทำได้ดีเช่นกัน โดยมีผลมากจากการเพิ่มอัตราทดเกียร์เข้าไป ทำให้ในด้านพละกำลังของเครื่องยนต์ตัวใหม่นี้ดีเกินคาด
ขณะที่เส้นทางที่คดเคี้ยวทั้งในทางเรียบสลับทางลาดชันตามแบบภูมิประเทศภาคใต้ ไม่ว่าจะเข้าโค้งกว้าง โค้งแคบ โค้งสั้น หรือโค้ง Hi-speed ยังได้ทดสอบระบบช่วยควบคุมทิศทางขณะเลี้ยว (Active Trace Control: ATC) ส่งผลทำให้ควบคุมได้อย่างมั่นใจและแม่นยำ ไม่เกิดอาการหน้าดื้อโค้งให้ผวา เพราะระบบ ATC จะทำงานอัตโนมัติโดยส่งแรงเบรกไปชะลอ 2 ล้อด้านในที่หักเลี้ยว เพื่อช่วยรักษาทิศทางของตัวรถให้เข้าโค้งในทิศทางตามต้องการได้อย่างแม่นยำ
อีกทั้งยังได้ทดสอบระบบช่วยในการขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Transport System: ITS) ระบบเตือนให้รักษาตำแหน่งรถในช่องทาง (Lane Departure Warning: LDW) โดยจะมีเสียงเตือนหากตัวรถเฉไปเฉมาออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ โดยจะเตือนขณะที่มีความเร็วสูงกว่า 70 กิโลเมตร/ชั่วโมง และรวมไปถึงการทดสอบระบบเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning: BSW) ซึ่งจะมีเสียงแจ้งเตือนให้ทราบว่ามีวัตถุอยู่ในจุดอับสายตาทั้งด้านซ้ายและขวาของผู้ขับขี่ เมื่อต้องการเปลี่ยนช่องทาง โดยระบบนี้จะต้องขับขี่ด้วยความเร็วสูงกว่า 32 กิโลเมตร/ชั่วโมง ถึงจะทำงาน แต่ทั้ง 2 ระบบนี้สามารถเปิด-ปิดการดำเนินงานของแต่ละระบบได้ตามต้องการ
ขณะที่ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบเป็นแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังเป็นแบบมัลติลิงค์ โดยทางนิสสันเซ็ทช่วงล่างมาแบบนิ่ม แต่ให้สมรรถนะการทรงตัวที่ดี ยังให้ความรู้สึกว่าเกาะถนน โดยที่ตัวรถไม่มีอาการโคลงไปมา และเมื่อลองขับด้วยความเร็วสูงยังพบว่าช่วงล่างยังสามารถซับแรงกระแทกของพื้นผิวได้เป็นอย่างดี ทำให้การขับขี่รถคันนี้สบายมากขึ้น
นอกจากนี้จุดเด่นของรถนิสสัน เทียน่า ใหม่ คือ ภายในห้องโดยสารที่ให้ความเงียบยามขับขี่ด้วยความเร็วที่ 100 – 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งมีผลมาจากการดีไซน์รูปลักษณ์ภายนอกตามหลักแอโรไดนามิกส์ที่ให้ตัวถังลู่ลม ลดแรงต้านอากาศขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง โดยให้อากาศไหลผ่านใต้ท้องรถอย่างรวดเร็วที่สุด ช่วยลดแรงเสียดทานอากาศ และลดเสียงรบกวน ตลอดเส้นทางยังได้เพลิดเพลินกับคุณภาพของเครื่องเสียงไฮเอนด์ BOSE 9 ลำโพง ที่ได้รับการออกแบบให้เหมาะสมกับดีไซน์ภายในห้องโดยสาร
สรุปโดยรวมแล้วรถนิสสัน เทียน่า ใหม่คันนี้ ได้ปรับปรุงให้ออกมาดีมากเมื่อเทียบกับรุ่นที่แล้ว อีกทั้งยังให้อุปกรณ์สิ่งอำนวยความสะดวกมาแบบครบครัน และรวมไปถึงระบบความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็น กล้องมองภาพรอบทิศทาง (Around View Monitor: AVM) เปิดมุมมองเสมือนจริงจากมุมสูงทุกองศา เพื่อให้ผู้ขับขี่มองเห็นวัตถุรอบตัวรถได้ชัดเจนง่ายดายยิ่งขึ้น พร้อมระบบช่วยในการขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Transport System: ITS) ไฮไลท์เด่นด้านเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ล้ำสมัย แจ้งเตือนบนหน้าจอ 3 มิติ ให้ผู้ขับขี่รับทราบข้อมูล 360 องศารอบคันรถ
เพิ่มความมั่นใจในการควบคุมการขับขี่ โดยผสานการทำงานของระบบเตือนให้รักษาตำแหน่งรถในช่องทาง (Lane Departure Warning: LDW) ระบบเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning: BSW) และระบบเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบรถ (Moving Object Detection: MOD) ถุงลมนิรภัย 6 จุด Welcome Seat เบาะนั่งคนขับปรับถอย-เดินหน้าอัตโนมัติ 40 มิลลิเมตร เพื่ออำนวยความสะดวกขณะขึ้น-ลงจากรถ , ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ Memory Seat 2 หน่วยความจำ ซึ่งเชื่อมต่อกับกุญแจอัจฉริยะ Intelligent Key
รถนิสสัน เทียน่า ใหม่ วางจำหน่ายทั้งหมด 5 รุ่น ขนาดเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ได้แก่ รุ่น 2.0XE 2.0XL และ 2.0 XL Navi และขนาดเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร ได้แก่ 2.5XV และ 2.5XV Navi ในราคาตั้งแต่ 1,270,000 บาท ถึง 1,620,000 บาท
มีให้เลือก 6 สี คือ สีน้ำเงิน ฟอล บลู (Fall Blue) ซึ่งเป็นสีใหม่ สีขาวมุก ไวท์ เพิร์ล (White Pearl) สีดำ แบล็ก สตาร์ (Black Star) สีเงิน บริลเลียนท์ ซิลเวอร์ (Brilliant Silver) สีน้ำตาล เกรย์ยิช บรอนซ์ (Grayish Bronze) และสีม่วงเทา ดีพ ไอริส เกรย์ (Deep Iris Gray)
