Warning: Creating default object from empty value in /home/www/virtual/mz-thailand.com/htdocs/modules/mod_roktabs/helper.php on line 249
You are here: HomeMZ-Test DriveTest DriveTEST DRIVE : เชฟโรเลต ครูซ ไมเนอร์ฌชนจ์ ประหยัดน้ำมันด้วย E85

Warning: Creating default object from empty value in /home/www/virtual/mz-thailand.com/htdocs/modules/mod_roktabs/helper.php on line 249

Warning: Creating default object from empty value in /home/www/virtual/mz-thailand.com/htdocs/modules/mod_roktabs/helper.php on line 249

Warning: Creating default object from empty value in /home/www/virtual/mz-thailand.com/htdocs/modules/mod_roktabs/helper.php on line 249

Warning: Creating default object from empty value in /home/www/virtual/mz-thailand.com/htdocs/modules/mod_roktabs/helper.php on line 249

TEST DRIVE : เชฟโรเลต ครูซ ไมเนอร์ฌชนจ์ ประหยัดน้ำมันด้วย E85

1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 Rating 3.00 (1 Vote)

บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เชิญ “MZ-THAILAND” ร่วมกิจกรรมทดสอบรถเชฟโรเลต ครูซ ไมเนอร์เชนจ์ รุ่น 1.8 LTZ บนเส้นทางกรุงเทพฯ-สุพรรณบุรี รวมระยะทางประมาณ 440 กิโลเมตร แบบ One Day Trip 

เชฟโรเลต ครูซ ได้เปิดตัวออกสู่ตลาดประเทศไทยเป็นครั้งแรก เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2553 ประสบความสำเร็จมียอดขายมากกว่า 20,000 คัน มาพร้อมการออกแบบที่ร่วมสมัยและสมรรถนะการขับขี่ที่โดดเด่น ครูซจึงเป็นรถยนต์สำหรับผู้บริหารรุ่นใหม่และสำหรับครอบครัว โดยคอมแพ็คต์ซีดานคันนี้นำยอดขายเชฟโรเลตทั่วโลกในปี 2555 ด้วยตัวเลขมากกว่า 755,00 คัน และที่สำคัญครูซยังเป็นรถเชฟโรเลตที่มียอดขายสูงที่สุดในโลก มีตัวเลขสะสมเกือบ 1.9 ล้านคัน นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2552  

สำหรับรถเชฟโรเลต ครูซ ไมเนอร์เชนจ์ 2013 นี้ ได้ปรับเปลี่ยนกันชนด้านหน้าดีไซน์ใหม่คู่กับไฟตัดหมอกรูปทรงโฉบเฉี่ยว พร้อมกับการปรับการออกแบบทั้งกรอบไฟหน้ามุมโครเมียมและกระจังหน้าใหม่ที่ทำให้โลโก้เชฟวี่ โบว์ไท มีความสะดุดตายิ่งขึ้น ขณะที่กันชนหลังดีไซน์ใหม่ให้ความสปอร์ตกว่าเดิม เข้ากับกรอบไฟท้ายใหม่อย่างลงตัว ครูซ โฉมใหม่ ยังมาพร้อมล้ออัลลอยแบบห้าก้านที่แต่งเติมความหรูหราให้แก่ตัวรถมากยิ่งขึ้น 

เข้ามาที่ภายในห้องโดยสารโดยในรุ่นของครูซ LTZ ได้ใช้สีน้ำตาลแดง (brown stone) แบบใหม่ พร้อมการแต่งเติมรายละเอียดและพื้นผิวสัมผัสบริเวณคอนโซลกลางให้ความรู้สึกหรูหราและมีความเป็นสปอร์ตคอมแพ็คคาร์มากยิ่งขึ้น สำหรับปุ่มสตาร์ทและดับเครื่องยนต์ได้รับการปรับเปลี่ยนให้เป็นทรงกลมเพื่อรองรับการใช้งานได้สะดวกสบายกว่าเดิม

ด้านเครื่องยนต์ยังใช้เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร ECOTEC บล็อก 4 สูบ เพลาราวลิ้นคู่เหนือฝาสูบ (DOHC) เหมือนเดิม ให้พละกำลังสูงสุด 141 แรงม้าที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 177 นิวตันเมตรที่ 3,800 รอบ/นาที แต่เครื่องยนต์ตัวนี้ได้รับการปรับเปลี่ยนให้สามารถรองรับการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ได้ ผ่านระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด รหัส GF6 รุ่นใหม่ล่าสุด

จุดเริ่มต้นของการทดสอบทริปนี้มีขึ้นที่โรงแรมพูลแมน คิง พาวเวอร์ ทดสอบไปยังจุดหมายปลายทางที่ โรงงานมิตรผล ไบโอฟูเอล จ.สุพรรณบุรี โดยก่อนที่จะเดินทางได้มีการแวะเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ตรงสถานีบริการน้ำมันบางจากบนถนนวิภาวดี 

หลังจากที่เติมน้ำมันเป็นที่เรียบร้อย ความรู้สึกแรกของการขับขี่รถเชฟโรเลต ครูซ เมื่อได้เติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 คือ อัตราเร่งตั้งแต่การออกตัวดี เครื่องยนต์ตอบสนองได้ทันใจ เมื่อลองกดคันเร่งลึกเพื่อคลิ๊กดาวน์เร่งแซงรถคันข้างหน้าก็รู้สึกได้ว่าไม่อืดอาดเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนไมเนอร์เชนจ์ ขณะเดียวกันได้ลองหันมาใช้เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด รหัส GF6 รุ่นใหม่ล่าสุด ขับขี่ในรูปแบบโหมดสปอร์ต +/- ต้องบอกว่าตอบสนองในด้านอัตราเร่งได้รวดเร็ว และอาการกระตุกของเกียร์เมื่อเวลาเล่นโหมดสปอร์ตไม่มีให้รู้สึก 

ด้านระบบช่วงล่างของรถเชฟโรเลต ครูซ ยังใช้ช่วงล่างระบบยูโรไรด์เช่นเดิม ความรู้สึกทังการนั่งขับขี่และนั่งเบาะผู้โดยสาร ให้ความรู้สึกของช่วงล่างนุ่มกว่ารุ่นที่แล้ว การเข้าโค้งในขณะขับขี่นั้นยังรู้สึกได้ถึงความโคลงเคลงของตัวรถ ซึ่งอาจเป็นเพราะระบบช่วงล่างที่ให้ความรู้สึกว่านุ่ม

 

ขณะที่พวงมาลัยให้ความแม่นยำเป็นอย่างมากในการหมุนพวงมาลัยเข้าโค้งแต่ละครั้ง ปุ่มกดบนพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่นเพื่อควบคุมครูสคอนโทรลและเครื่องเสียงใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน เบาะนั่งกระชับ แต่ติดตรงมีปัญหาตรงที่ปุ่มหมุนควบคุมพัดลมแอร์ตรงคอนโซลกลางอยู่ติดกับเข่าด้านซ้ายของคนขับ ทำให้บางทีปุ่มหมุนเมื่อเวลาโดนเข่าของคนขับส่งผลทำให้เลื่อนเร่งแรงลมแอร์เอง ส่วนวัสดุซับเสียงลมในขณะขับขี่ด้วยความเร็ว 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง เป็นต้นไปนั้นทำได้ดีแทบไม่ได้ยินเสียงลมจากข้างนอก

สรุปโดยรวมแล้วรถเชฟโรเลต ครูซ ไมเนอร์เชนจ์คันนี้ ได้ปรับเปลี่ยนทั้งรูปลักษณ์ภายนอก ภายใน และเครื่องยนต์ ให้ตรงกับความต้องการลูกค้าชาวไทยมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของพลังงานทางเลือก ในรุ่นของเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร ทางเชฟโรเลตปรับเปลี่ยนให้สามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ได้นั้น ถือว่าช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมันได้ แม้ว่าจำนวนสถานีบริการน้ำมัน E85 มีไม่มาก แต่คาดว่าในอนาคตมีเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ขณะที่มาตรวัดแสดงผลการใช้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันในการทดสอบทริปนี้โดยที่ใช้ความเร็วเฉลี่ย 100-140 กิโลเมตร/ชั่วโมง อยู่ที่ 10.4 กิโลเมตร/ลิตร

ส่วนระบบความปลอดภัยถือว่าให้มาคุ่มค่าไม่ว่าจะเป็นถุงลมนิรภัยคู่หน้าและด้านข้าง ระบบเบรกABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบ ESP ระบบ Traction Control และกุญแจนิรภัย Key Immobilizer ด้วยราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 7.590 แสนบาท – 1.248 ล้านบาท ถือว่าคุ้มค่าน่าซื้อใช้

 

Pretty

ส่องสาวสวยล้นแทร็ก OR BRIC Superbike 2023 ศึกสองล้อชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์... Read more
Race Queen Chang Super GT Race 2019 อีกหนึ่งสีสันของการแข่งขันช้าง ซูเปอร์จีที เรซ... Read more
Race Queen Super GT Race 2018 ประมวลภาพเรซควีนสาวสวยสุดน่ารักจากญี่ปุ่นกว่าร้อยชีวิตจากขอบสนาม การ... Read more