หลังจากที่ได้ทดสอบ NETA V-II ก็มาต่อกันที่ NETA X เป็นรถครอสโอเวอร์เอสยูวี ในระดับ B-Segment แต่ตัวรถมีขนาดใหญ่ดูบึกบึน สปอร์ต แม้พละกำลังอาจจะมีไม่มากเมื่อเทียบกับคู่แข่ง แต่ในเรื่องสมรรถนะของช่วงล่างถือว่าดีเลย (มีคลิป => YOUTUBE)
NETA X ที่ถูกดีไซน์ใหม่ทั้งภายนอกและภายในตัวรถให้มีความโฉมเฉียวมากยิ่งขึ้น พร้อมอัปเดทฟีเจอร์ NETA X ทันสมัยเข้าไปหลายจุดด้วยกัน ดีไซน์ไฟหรี่แบบ L-Shape ส่วนไฟหน้าติดตั้งอยู่บริเวณกันชนหน้า พาโนรา มิคซันลูฟ โดยขนาดตัวรถ ยาว 4,619มม. กว้าง 1,860 มม. และสูง 1,628 มม. ความยาวฐานล้อ 2,770 มม.
ภายในห้องโดยสารของ NETA X กว้างขวางตอบสนองไลฟ์สไตล์ เบานั่งผู้ขับขี่มีระบบ welcome surve โดยเบานั่งผู้ขับแข่และผู้โดยสาร สามารถปรับได้ 6 ทิศทาง โดดเด่นด้วยหน้าจอกลางขนาดใหญ่ถึง 15.6 นิ้ว ที่ใช้ควบคุมการทำงานทุกอย่างของตัวรถ หน้าจอเรือนไมล์มีขนาดใหญ่ถึง 8.9 นิ้ว มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่หลังพวงมาลัย ส่วนพื้นที่เก็บสัมภาระ 508 ลิตร พื้นที่เก็บสัมภาระ เมื่อพับเบาะหลังทั้งหมด 1,388 ลิตร
พละกำลังของ NETA X ให้สูงสุด 163 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 210 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหน้า แบตเตอรี่เป็นแบบลิ เธียมไอออน โหมดการขับขี่ Standard และ Sport ให้ระยะทางในการขับขี่ที่ไกลถึง 500 กิโลเมตร พวงมาลัยไฟฟ้า ช่วงล่างด้านหน้าแม็กเพอร์สัน ด้านหลังมัลติลิ้งก์ มาพร้อมล้อขนาด 225/60 R18
ระบบความปลอดภัยเป็นแบบ ADAS 2.5 ที่คาดว่าจะใส่ให้มาในสเป็คที่จำหน่ายในเมืองไทยอย่าง ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ ระบบเตือนรถคันหน้าออกตัว ระบบรักษาตัวรถให้อยู่ในช่องทางอัตโนมัติ ระบบเบรกฉุกเฉิน ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ ระบบเปิด/ปิดไฟสูงอัตโนมัติ หรือ ระบบเตือนมุมอับสายตา
ในส่วนของสถานีการทดสอบของ NETA X เริ่มกันที่มาลองระบบการออกตัวทางลาดชัน โดยเริ่มจากการออกตัวทางลาดชันขึ้นเนินไปข้างหน้า แน่นอนระบบกันรถไม่ให้ไหล 3 วินาที เพื่อให้มีเวลาเท้ายกออกจากเบรกไปสู่คันเร่งรถจะได้ไม่ไหล แต่การทดสอบนี้ล้อข้างนี้จะเหยียบน้ำเพื่อแสดงให้เห็นว่ารถไม่ลื่นไถลเวลาออกตัวบนทางลาดชัน นอกจากนี้ยังมีระบบออกตัวทางลาดชันแบบถอยหลังซึ่งรถน้อยรุ่นที่จะมีระบบนี้ด้วยการจดรถบนเนินทางลงหลังจากนั้นเข้าเกียร์ถอยหลังเพื่อขับรถถอยหลังขึ้นเนิน โดยระบบตัวช่วยขับออกตัวบนทางลาดชันถอยหลังก็จะมีระบบกันไหล 3 วินาทีเช่นกัน ช่วยให้การถอยหลังสะดวกและง่ายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังได้ลองระบบตัวช่วยลงทางลาดชันซึ่งส่วนใหญ่ระบบนี้จะอยู่ในรถที่เปป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเป็นส่วนใหญ่ แต่ในรถ NETA X มีระบบนี้โดยกดปุ่มใช้งานบนจอกลางและปล่อยให้รถลงทางลาดชัน ระบบจะควบคุมความเร็วไม่ให้เกิน 10 กม./ชม. เพื่อไม่ให้รถไหลลงทางลาดชันเร็วเกินไป
มาต่อกันที่การทดสอบสมรรถนะในเรื่องการขับขี่กันบ้าง เริ่มด้วยการขับขี่สลาลอมด้วยความเร็วประมาณ 40 กม./ชม. ถือว่าช่วงล่างทำงานได้ดีอาการโยนตัวน้อย พวงมาลัยน้ำหนักเบาช่วยให้หมุนพวงมาลัยง่ายและยังส่งผลถึงการควบคุมรถง่ายด้วยเช่นกัน หลังจากนั้นมาที่สถานีลองอัตราเร่งโดยกดคันเร่งให้สุดพบว่าด้วยพละกำลัง 163 แรงม้า อาจไม่ได้ให้ความรู้สึกว่าแรง แต่รถก็ทะยานแบบนิ่มนวลไม่กระโชกโฮกฮาก หลังจากนั้นมาต่อกันที่การขับขี่เข้าโค้งโดยองศาของโค้งอยู่ที่ประมาณ 20 องศา ความเร็วที่ใช้อยู่ประมาณ 70-80 กม./ชม. ถือว่าให้ความรู้สึกว่านิ่ง แอบลองเพิ่มความเร็วเพิ่มขึ้นก็ยังสามารถยึดเกาะถนนได้ดี
มาทดสอบ NETA X ในสถานีต่อไปเป็นเรื่องการทดสอบเสียงที่เข้ามาในตัวรถ ด้วยการนำเชือกมาวางกับพื้นหลายๆเส้นเพื่อเป็นการจำลองถนนที่ไม่เรียบ โดยการขับรถผ่านด้วยความเร็วประมาณ 30 กม./ชม. วัสดุซับเสียงในรถ NETA X ถือว่าทำได้ดีเข้ามาในห้องโดยสารน้อยมาก และมาสถานีสุดท้ายของการทดสอบ คือ การเปลี่ยนเลนกะทันหันโดยขับมาด้วยความเร็วประมาณ 60 กม./ชม. แล้วหักหลบสิ่งกีดขวางข้างหน้า ถือว่าการโยนตัวของตัวรถในการขับหักหลบถือว่าดีผิดคาด ช่วงล่างไม่ย้วยและยังสามารถคุมให้อยู่ในเลนที่เปลี่ยนได้ ซึ่งในรอบที่ 2 ลองเพิ่มความเร็วขึ้นมาอีกนิดก็ยังถือว่าทำได้ดียังคุมรถอยู่
สรุปโดยรวมแล้ว NETA X เป็นรถ CROSSOVER SUV ที่ตอบโจทย์เรื่องความอเนกประสงค์ในการใช้งาน ด้วยตัวรถที่อยู่ก้ำกึ่งระหว่าง B-Segment และ C-Segment ทำให้ตัวรถดูใหญ่ภายในกว้างขวาง ความแรงอาจจะไม่มากแต่ระบบช่วงล่างดีกว่าคู่แข่งแน่นอน สำหรับ NETA X จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม 2567 นี้ มาติดตามกันว่าจะวางจำหน่ายกี่รุ่น ราคาจำหน่ายเท่าไหร่มาลองทายเล่นๆ กัน