เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2555 ที่ผ่านมา บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เชิญ MZ-THAILAND ร่วมกิจกรรมทดสอบรถนิสสัน ซิลฟี ขนาดเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร โดยเน้นการขับขี่ในรูปแบบ Eco Driving เส้นทาง กรุงเทพ - ศรีราชา จังหวัดชลบุรี ระยะทาง 121.5 กิโลเมตร เพื่อทดสอบสมรรถนะการขับขี่ยืนยันอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง บนเส้นทางการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน
รูปลักษณ์ภายนอกของรถนิสสัน ซิลฟี เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร กับ 1.8 ลิตร ไม่แตกต่างกันมาก ยังคงเอกลักลักษณ์ของความหรูหรา แม้ว่ารถคันนี้มีขนาดตัวถังที่ใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับรถยนต์ในระดับเดียวกัน ไฟหน้าแบบ Multi-reflector พร้อมไฟแบบ LED ที่ได้ติดตั้งทั้งในตำแหน่งไฟหรี่ด้านหน้า ชุดไฟท้าย ไฟเบรคดวงที่สาม และไฟเลี้ยวบริเวณกระจกมองข้าง และไฟอ่านแผนที่ ทำให้รถคันนี้ได้ไฟแบบ LED รวมรอบคันถึง 54 ดวง ขณะที่กระจกหน้าได้ขยายพื้นที่ให้ใหญ่ขึ้นเพื่อเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ กันชนขนาดใหญ่และกระจังหน้าพร้อมช่องระบายอากาศแบบรังผึ้งที่ออกแบบมาให้ดูมีมิติมากขึ้น และยังเป็นการเพิ่มความปลอดภัยและช่วยควบคุมการถ่ายเทอากาศได้ดี ขณะที่พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถมีขนาดความจุมากถึง 510 ลิตร ซึ่งถือว่าใหญ่ที่สุดในรถยนต์ระดับเดียวกัน
พื้นที่ภายในห้องโดยสารมีขนาดใหญ่ ช่วยทำให้การเข้า – ออกห้องโดยสารได้สะดวกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง แผงคอนโซลด้านหน้าถูกออกแบบให้ใช้งานง่ายตามหลักสรีระศาสตร์หรือ Ergonomic design เพื่อสะดวกต่อการใช้งาน ส่วนสีภายในห้องโดยสารได้ใช้สีแบบเบจโทนใหม่ และบริเวณคอนโซลใช้วัสดุคุณภาพสูงที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีพิเศษ Micro-grain เพื่อลดแสงสะท้อนจากแสงแดดได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งยังได้บุวัสดุบุนุ่ม (soft pad) ขณะที่แผงหน้าปัดเป็นแบบเรืองแสง (Fine Vision Meter) ขนาดใหญ่พร้อมจอแสดงข้อมูล Multi Information Display ในทุกรุ่น เพื่อแสดงข้อมูลอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง ทั้งในแบบใช้จริง และเฉลี่ย/ชั่วโมง หรือมาตรวัดระยะทางย่อยและระยะทางรวม
เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร ที่ได้รับการพัฒนาใหม่ รหัส HR 16DE ขนาด 4 สูบ 16 วาล์ว และได้ติดตั้งระบบวาล์วแปรผันคู่ Twin C-VTC (Twin Continuously Variable Timing Control) ผสานกับการทำงานของระบบหัวฉีดคู่ Dual Injector System นับเป็นครั้งแรกในรถยนต์ระดับเดียวกัน ช่วยทำให้เกิดการเผาไหม้เกิดการเสถียรได้ดียิ่งขึ้น เพื่อสมรรถนะที่ดีกว่าและประหยัดน้ำมันดียิ่งขึ้น โดยผลจากการทดสอบใน Euro Mode มีอัตราประหยัดน้ำมันที่ 16.1 กม/ลิตร ให้กำลังสูงสุด 116 แรงม้า ที่ 5,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 154 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ผ่านระบบเกียร์อัจฉริยะ Xtronic CVT
การทดสอบรถนิสสัน ซิลฟี 1.6 ลิตร ในครั้งนี้ ทางทีมงานนิสสันได้เตรียมรถไว้ทั้งหมด 6 คัน โดยเลือกใช้เส้นทางกรุงเทพ - ศรีราชา จังหวัดชลบุรี รวมระยะทางในการทดสอบประมาณ 121.5 กิโลเมตร โดยเริ่มต้นจากโชว์รูมนิสสัน บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ที่มีการจราจรคับคั่งตลอดทั้งวัน และใช้เส้นทางพระราม 9 เพื่อตรงเข้าสู่ถนนมอเตอร์ เวย์ และมุ่งหน้าสู่สถานีบริการน้ำมัน ปตท. ในอำเภอศรีราชา เพื่อตรวจวัดอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงจากการเดินทางในครั้งนี้
ที่ยังคงเน้นการควบคุมความเร็วให้คงที่ แต่ยังคงความเร็วในระดับที่ใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน และคงสภาพการขับขี่แบบใช้งานจริงทุกประการ เช่น เปิดแอร์ และควบคุมความดันลมยางปกติตามที่ได้กำหนดไว้ในคู่มือ รวมทั้งยังได้กำหนดเวลาที่ใช้ในการขับขี่ในครั้งนี้ให้ไม่เกิน 2 ชั่วโมง 30 นาทีจากจุดเริ่มต้น ซึ่งสภาพเส้นทางประกอบด้วยทั้งในส่วนของสภาพการจราจรที่ติดขัด และสภาพการจราจรแบบใช้ความเร็วสูงบนถนนทางหลวง
ความเร็วเฉลี่ยในการใช้ในการขับขี่ทดสอบครั้งนี้อยู่ที่ประมาณ 80-90 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยรถนิสสัน ซิลฟ เครื่องยนต์ 1.6 ลิตรคันนี้ ยังใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ Xtronic CVT ส่งผลให้น้ำหนักคันเร่งเบา ต้องคุมจังหวะการกดคันเร่งให้นิ่ง และมีอัตราช่วงการเปลี่ยนเกียร์ที่กว้างมาก ซึ่งแตกต่างจากระบบเกียร์อัตโนมัติทั่วไปที่จะมีชุดเฟืองเกียร์ที่ไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ ซึ่งระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ได้เปรียบกว่า เพราะสามารถคงรอบเครื่องยนต์ที่มีแรงบิดสูงสุดเอาไว้ได้อย่างต่อเนื่อง ผลลัพธ์ที่ได้คือมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ยที่ 36.6 กม/ลิตร หรือเติมน้ำมันไปกว่า 2 ลิตรเท่านั้น โดยผลจากการทดสอบเป็นการคำนวณจากปริมาณน้ำมันที่เติมกลับไปยังรถแต่ละคันหลังจากสิ้นสุดการทดสอบ
สรุปได้ว่าการขับขี่รถนิสสัน ซิลฟี 1.6 ลิตร จะออกมาให้มีความประหยัดน้ำมันนั้น ต้องใช้เทคนิคการขับขี่ในรูปแบบอีโค ไดรฟ์ ของทางนิสสัน ด้วยเทคนิคง่ายๆ เพียง 3 ข้อเท่านั้น คือ 1.การควบคุมน้ำหนักเมื่อเริ่มต้นเหยียบคันเร่ง มีเทคนิคง่ายๆ คือ หลังจากปล่อยเท้าออกจากเบรค ให้เว้นช่วงประมาณ 1 วินาทีก่อนที่จะเริ่มเหยียบคันเร่ง 2.การควบคุมคันเร่ง อย่างกดคันเร่ง หรือกดๆ ปล่อยๆ ซึ่งจะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมัน ควรใช้ความเร็วคงที่ โดยเฉพาะการกดคันเร่งให้นิ่งและคงที่มากที่สุด และหากลงเนินก็ควรปล่อยคันเร่ง โดยเกียร์อัตโนมัติแบบ Xtronic CVT จะมีการปรับเปลี่ยนให้สัมพันธ์กับความเร็ว ส่งผลทำให้ช่วยประหยัดน้ำมัน และ 3.การผ่อนคันเร่งตั้งแต่เนิ่นๆ เมื่อทราบว่าจะต้องเบรก และเบรกรถให้หยุดเมื่อรอบต่ำกว่า 1000 rpm ซึ่งจะช่วยประหยัดน้ำมันเช่นกัน
อย่างไรก็ดีจุดเด่นสำคัญของรถนิสสัน ซิลฟี ซึ่งช่วยให้มีความประหยัดน้ำมัน คือ ระบบหัวฉีดคู่ Dual Injector System ซึ่งทางนิสสันได้ใช้เทคโนโลยีนี้จากรถแข่งของทางนิสสันมาประยุกต์ใใช้กับรถยนต์นั่ง โดยจุดเด่นของระบบหัวฉีดคู่ คือ สามารถวางตำแหน่งของหัวฉีดลึกมาก ส่งทำให้ปริมาณการฉีดน้ำมันออกมาแต่ละครั้งมีความละเอียดหรือเป็นฝอยมาก ตรงจุดนี้จะช่วยให้การเผาไหม้มีความสมบูรณ์สะอาดหมดจดในการฉีดน้ำมันแต่ละครั้ง
สำหรับรถนิสสัน ซิลฟี เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่ รุ่น 1.6 S MT ราคา 746,000 บาท , รุ่น 1.6 S CVT ราคา 776,000 บาท , รุ่น 1.6 E CVT ราคา 799,000 บาท และ รุ่น 1.6 V CVT ราคา 833,000 บาท
หมายเหตุ : ผลของอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย ได้จากการนำผลอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงจาก
การทดสอบทั้งหมด 6 คัน แต่ไม่นำผลคันที่ดีที่สุดและน้อยที่สุดมาคำนวณ