บริษัท นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด จัดกิจกรรมทดสอบรถยนต์ไฟฟ้านิสสัน ลีฟ ใหม่ ด้วยการขับขี่ในสภาพการจราจรที่แตกต่างกันครอบคลุมพื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลตลอดทั้งวัน ด้วยการชาร์จไฟเต็มเพียงครั้งเดียว รวมระยะทางประมาณ 140 กิโลเมตร
นิสสัน ลีฟ ใหม่ เป็นการนำเสนอความก้าวหน้าในด้านเทคโนโลยีพลังการขับเคลื่อนอัจฉริยะ (Intelligent Power) เทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Driving) และเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออัจฉริยะ (Intelligent Integration) โดยให้ระยะการขับขี่ 311 กิโลเมตร ตามมาตรฐานการวัดค่าไอเสียและอัตราสิ้นเปลืองในการขับขี่ของยุโรป NEDC
ระบบขับเคลื่อนเป็นแบบพลังงานไฟฟ้า (e-powertrain) ขนาดความจุ 40 กิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) มีกำลังเครื่องยนต์สูงสุด 110 กิโลวัตต์ (kW) และแรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตรให้อัตราเร่งที่ดีขึ้น จาก0 ถึง 100 กม./ชม. ภายในเวลาเพียง 7.9 วินาที อีกหนึ่งเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะที่โดดเด่นของนิสสัน ลีฟ ใหม่ คือ e-Pedal ที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่เริ่มขับขี่ เร่งความเร็ว ลดความเร็ว และหยุดรถด้วยการใช้คันเร่งเพียงอย่างเดียว โดยการเหยียบหรือผ่อนคันเร่ง เมื่อปล่อยคันเร่งทั้งหมดรถจะชะลอและหยุดโดยอัตโนมัติ นำรถไปสู่การหยุดอย่างสมบูรณ์ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ที่สามารถเปลี่ยนแปลงวิถีผู้ขับขี่ได้ตลอดไป ถึง 90% ของการขับขี่โดยใช้เพียงคันเร่งเดียวเท่านั้น
การทดสอบครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน เริ่มจากการทดสอบเทคโนโลยี e-Pedal ปฏิวัติการขับขี่ โดยเปลี่ยนวิธีการขับขี่ด้วยการเร่งความเร็ว ชะลอความเร็ว และหยุดรถด้วยการใช้คันเร่งเพียงอย่างเดียวในรูปแบบมินิจิมคาน่าและการใช้ e-Pedal ในการหยุดรถใกล้เส้นที่สุด โดยเมื่อปล่อยคันเร่ง รถจะชะลอความเร็วโดยอัตโนมัติจนถึงหยุดนิ่งได้โดยสมบูรณ์ แม้ว่าจะจอดรถค้างบนเนิน ก็ไม่จำเป็นต้องเหยียบแป้นเบรกด้วยอัตราการชะลอความเร็วที่สูงถึงกว่า 0.2G โดยผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องขยับเท้าออกจากคันเร่งไปยังแป้นเบรกเพื่อชะลอหรือหยุด
ขณะที่ในส่วนที่ 2 เป็นการขับขี่จากถนนพระราม 9 เพื่อไปจุดหมายปลายทางที่อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม แน่นอนว่าด้วยการที่เป็นระบบเคลื่อนแบไฟฟ้า 100% ทำให้มีพละกำลังในการเร่งเพื่อออกตัวรถแบบสบาย รวมถึงอัตราเร่งแซงในช่วงความเร็วยังทำได้ดี เรียกได้ว่าในเรื่องพละกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้ากับขนาดของตัวรถไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน รวมถึงการใช้เทคโนโลยี e-Pedal มาช่วยขับขี่แล้ว ยิ่งทำให้การขับขี่ในเมืองสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ขณะที่ ระยะทางในการทดสอบประมาณ 140 กิโลเมตร ที่เจอทั้งสภาวะรถติดทั้งในเมืองและนอกเมืองถือว่าเพียงพอเหลือไฟฟ้าได้ขับอีกประมาณ 30-40 กิโลเมตร ซึ่งเพียงพอต่อการใช้รถต่อ 1 วัน
นอกจากนี้ นิสสัน ลีฟ ใหม่ ยังมีระบบนิสสัน เซฟตี้ ชิลด์ (Nissan Safety Shield) ซึ่งประกอบด้วยชุดเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยขั้นสูง ได้แก่ เทคโนโลยีช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์ด้านหน้าขณะขับขี่ (Forward Collision Warning) เทคโนโลยีเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Forward Emergency Braking) เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor) พร้อมด้วยเทคโนโลยีเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน (Moving Object Detection) และเทคโนโลยีช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Alert Assist) เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่มากยิ่งขึ้น
สำหรับ นิสสัน ลีฟ ใหม่ มีการประกันคุณภาพรถยนต์เป็นเวลา 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร พร้อมการรับประกันระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และรับประกันการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่เป็นเวลา 8 ปีหรือ 160,000 กิโลเมตร โดยมีศูนย์บริการนิสสัน 32 แห่งทั่วประเทศ ที่สามารถรองรับการบริการหลังการขาย และด้วยข้อตกลงความร่วมมือระหว่างนิสัน การไฟฟ้านครหลวงแห่งประเทศไทย และ เดลต้า สามารถทำให้ในอนาคตอันใกล้นี้ไม่ใช่เพียงขับรถได้เฉพาะในเมืองเท่านั้น แต่รวมถึงการขับขี่ออกไปต่างจังหวัดได้