กันตศักดิ์ กุศิริ แชมป์ประเทศไทยจาก สิงห์ ยังเป็นหัวแถวบนตารางแชมเปี้ยนชิพ ไทยแลนด์ ทัวริ่งคาร์ ขณะที่ อาทิตย์ เรืองสมบูรณ์ พลิกคว้าแชมป์แรกของปีให้ตัวเองได้แล้ว ด้าน โปร.ทรัค วริศ อ่อนระยับ ควบ อีซูซุ ดีแมคซ์ ผงาดเรซ 5 และ ธนภณ ทองเจือ ซิ่งมาสด้า บีที-50 คัมแบ็กสวยงาม ส่วน หทัย ไชยวัณณ์ เหมาแชมป์ โปร. คาร์ รั้งจ่าฝูงต่อ โดยทุกรุ่นต้องไปตัดสินแชมป์ใน 2 สนามสุดท้าย

เกมที่พีระฯ เซอร์กิต ในสุดสัปดาห์นี้ ต้องดวลความเร็วท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมาอย่างหนัก ส่งผลให้รถแข่งทุกคันต้องขับด้วยความระมัดระวัง โดยในกริดสตาร์ทของรุ่นไฮไลต์อย่าง ไทยแลนด์ ทัวริ่งคาร์ แชมเปี้ยนชิพสนาม 5 มี ภัทรพล วงษ์ไพร จากเอสซี มอเตอร์สปอร์ต ออกสตาร์ทจากหัวแถว ตามด้วย อาทิตย์ เรืองสมบูรณ์ และ เอกประวัติ เพ็ชรรักษ์ ด้าน กันตศักดิ์ กุศิริ จ่าฝูงจาก สิงห์ ฮอนด้า โททาล รวมถึง แจ็ค แลมวาร์ด นักขับลูกครึ่งไทย-เดนมาร์ค จาก โอเอ็มพี วัฒนา มอเตอร์สปอร์ต พลาดหลุดโค้งตั้งแต่รอบแรกของการควอลิฟาย จนต้องต่อท้ายในกริดสตาร์ท

เริ่มเกมด้วยสภาพอากาศที่มีฝนโปรยลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยความได้เปรียบเป็นของ ภัทรพล ที่ออกนำคู่แข่งค่อนข้างห่าง จนกระทั่งรอบที่ 8 รถแข่งของ อภิชัย พันธุ์คงชื่น ไปเกี่ยวกับ เอกประวัติ ในโค้งเอส 2 จนทั้งคู่หมุนอยู่กลางโค้ง และรถแข่งของ เอกประวัติ จอดเสียอยู่กลางแทร็ก ส่งผลให้เซฟตี้คาร์ต้องออกมาวิ่งเพื่อเคลียร์แทร็ก 2 รอบสนาม

รีสตาร์ทอีกครั้งด้วยการโรลลิ่งสตาร์ท โดยมี ภัทรพล เป็นผู้นำ ตามด้วย กันตศักดิ์ ส่วนอันดับ 3 ได้แก่ อาทิตย์ ซึ่งมี กันตธีร์ กุศิริ จาก ทีมเอ๊กกี้ จ่อท้ายอยู่ในอันดับ 4 ขณะที่เหลือการแข่งขันอีกทั้งสิ้น 10 รอบสนาม และเพียง 2 รอบให้หลัง กันตศักดิ์ ก็ขยับแซง ภัทรพล ขึ้นเป็นจ่าฝูงได้สำเร็จ ก่อนจะซิ่งเข้าป้ายเป็นคันแรก คว้าแชมป์สนามที่ 5 ติดต่อกัน

ส่วนอันดับ 2 ได้แก่ อาทิตย์ ที่หนีการไล่ล่าของ กันตธีร์ ได้สำเร็จ ขณะที่กันตธีร์ไม่จบการแข่งขันเนื่องจากรถเสียจากปัญหาในระบบเกียร์ ด้านอันดับ 3 ได้แก่ อภิชัย ที่ฮึดกลับมาได้อีกครั้ง ตามด้วยจอมเก๋าอย่าง หทัย ไชยวัณณ์ ส่วน ภัทรพล ร่วงลงไปจบเรซในอันดับ 5

ขณะที่การแข่งขันเรซ 6 นั้น กันตศักดิ์ ยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ขยับแซง พัฒวิช พยัฒโส เจ้าของตำแหน่งโพลโพซิชั่นได้ในรอบที่ 6 ก่อนจะนำโด่งออกไป ทว่าในช่วงกลางการแข่งขัน กันตศักดิ์ กลับต้องหยุดสถิติการคว้าแชมป์ 6 เรซติดต่อกันอย่างน่าเสียดาย เมื่อรถแข่งมีปัญหาขณะที่เหลือการแข่งขันเพียง 6 รอบสนามเท่านั้น

โดยแชมป์สนาม 6 ตกเป็นของ อาทิตย์ ที่มาพลิกแซง พัฒวิช ได้ในช่วงท้ายเรซก่อนซิ่งเข้าป้ายเป็นคันแรก คว้าแชมป์แรกของปีนี้ให้กับตัวเองได้สำเร็จ ส่วนอันดับ 2 ได้แก่ พัฒวิช ตามด้วย อภิชัย , เอกประวัติ และธนากร อัษฎาธร ตามลำดับ ด้าน แจ็ค แลมวาร์ด รองจ่าฝูงก่อนแข่งสนามนี้ไม่จบการแข่งขันทั้ง 2 เรซ

ด้านการแข่งขันในรุ่นโปร. คาร์ ซึ่งใช้รถแข่งที่มีสเป็กใกล้เคียงรถโรงงานมากที่สุด โดยแชมป์ทั้ง 2 สนามในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาตกเป็นของ หทัย ไชยวัณณ์ ที่ควบรถแข่ง มิตซูบิชิ แลนเซอร์ นำม้วนเดียวจบทั้ง 2 เรซ พร้อมกับโกยแต้มนำเป็นจ่าฝูงต่อไป โดยมี ขจรศักดิ์ ณ สงขลา ในรถแข่ง ฟอร์ด เฟียสต้า และ ฉัตรพล เจียม วิจิตร ในรถแข่ง ฮอนด้า แจ๊ซ ตามเข้ามาเป็นอันดับ 2 และ 3 ทั้ง 2 เรซ เช่นกัน 

ส่วนการแข่งขันในรุ่น โปร. ทรัค ซึ่งถือเป็นอีกรุ่นที่ขับเคี่ยวกันอย่างสนุก โดยนักขับฟอร์มร้อนแรงอย่าง เกียรติพงษ์ เธียรประยูร แชมป์ 2 สนามที่ผ่านมา นั้นทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ควบรถแข่ง อีซูซุ ดีแมคซ์ เข้าป้ายเป็นคันแรกแบบม้วนเดียวจบในเรซที่ 5 ทว่ารถแข่งกลับตรวจสภาพไม่ผ่านเนื่องจากน้ำหนักขาดไป ส่งผลให้โดนปรับดิสควอลิฟาย ไร้แต้มในสนามนี้ทันที

ทำให้แชมป์โปร. ทรัคสนาม 5 ตกเป็นของ วริศ อ่อนระยับ ที่ควบรถแข่งอีซูซุ ดีแมคซ์ เข้าป้ายเป็นคันที่ 2 คว้าแชมป์แรกให้กับตนเองได้สำเร็จ โดยมี ขจรศักดิ์ ณ สงขลา ตามเข้ามาเป็นอันดับ 2 ส่วน จรัส แจ้งกมลกุลชัย จ่าฝูงควบ เชฟวี โคโลราโด้ เข้ามาเป็นอันดับ 3 ตามด้วย ทาดามิตซึ นิอิโฮริ นักขับญี่ปุ่นในรถแข่ง อีซูซุ ดีแมคซ์ และ นพพล เชิดชูสัตย์

สำหรับเรซที่ 6 ของ โปร. ทรัค นับเป็นการกลับมาคว้าแชมป์ได้อย่างสวยงามของ “พีท” ธนภณ ทองเจือ นักขับรูปหล่อจากพีทีที เพอร์ฟอร์ม่า หลังพลาดไม่จบการแข่งขันในเรซ 5 โดยมาแก้ตัวได้สำเร็จในเรซที่ 6 ด้วยการซิ่งรถแข่งมาสด้า บีที-50 เข้าป้ายเป็นคันแรก ด้วยการนำของเซฟตี้คาร์เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักและผ่านการแข่งขันทั้งสิ้น 75 เปอร์เซ็นต์แล้ว โดยมี วริศ ตามเข้ามาเป็นอันดับ 2 ส่วนอันดับ 3 เป็นของ ขจรศักดิ์ ตามด้วย ไมเคิล ฟรีแมน และ ไพฑูรย์ ธรรมาศิริกุล ขณะที่ เกียรติพงษ์ ซึ่งได้ออกสตาร์ทจากท้ายแถวขยับขึ้นมาจบเรซในอันดับ 6

ทั้งนี้ หลังจากมีความพลิกผันในกลุ่มหัวแถวของทุกรุ่น ส่งผลให้ศึก โปร. เรซซิ่ง ซีรีส์ ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนชิพ ในฤดูกาลนี้ ต้องไปตัดสินแชมป์กันใน 2 เรซสุดท้ายของปี ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 24-25 พฤศจิกายน นี้ ที่สนามพีระ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต (พัทยา) เช่นเคย